ข่าวสุขภาพ
ข่าวสุขภาพทั่วไป ข่าวธุรกิจสุขภาพไทย ข่าว/กิจกรรม/สาระ รพ.ต่างๆ ข้อมูลบริการ รพ.ต่างๆ สาระความรู้สุขภาพ กิจกรรม ESG CSR Health Economy บริจาครพ.ต่างๆ
น่าสนใจไทยแลนด์
About us เผยแพร่เนื้อหา สถิติเว็บไซต์ สำรวจความเห็นสุขภาพ โฆษณา
healthserv.net@gmail.com

โรคใหลตาย ภัยเงียบในผู้ชายที่มีสุขภาพแข็งแรง

โรคใหลตาย ภัยเงียบในผู้ชายที่มีสุขภาพแข็งแรง Thumb HealthServ.net
โรคใหลตาย ภัยเงียบในผู้ชายที่มีสุขภาพแข็งแรง ThumbMobile HealthServ.net

เป็นข่าวขึ้นมาอยู่ในความสนใจอีกครั้งกับการเสียชีวิตของดาราชายท่านหนึ่งที่พบในภายหลังว่าเป็นโรคใหลตาย โรคที่เคยได้ยินชื่อกันมานาน แต่ปัจจุบันอาจพบไม่บ่อยครั้งนัก เพื่อความเข้าใจที่มากยิ่งขึ้น คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้เผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับโรคใหลตายนี้ พร้อมคำแนะนำและแนวทางป้องกันไว้แล้ว ดังนี้

โรคใหลตาย ภัยเงียบในผู้ชายที่มีสุขภาพแข็งแรง HealthServ

    "ใหลตาย" เป็นสาเหตุการเสียชีวิตฉับพลันที่สำคัญสาเหตุหนึ่งของประเทศไทย โรคใหลตายเป็นโรคทางพันธุกรรม ผู้ป่วยโรคใหลตายมักเป็นผู้ที่มีสุขภาพแข็งแรง พบในเพศชายมากกว่าเพศหญิง เราพบภาวะไหลตายเป็นสาเหตุหนึ่งในการเกิดภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะรุนแรง ทั้งที่ไม่เสียชีวิตและเสียชีวิต พบราว 10% โดยพบมากขึ้นในกลุ่มคนอายุน้อยกว่า 65 ปี และมักพบในประชากรภาคอีสานมากที่สุด ในอดีตเคมีคนเรียกโรคนี้ว่าโรค “ผีแม่หม้าย” เนื่องจากผู้เสียชีวิตมักเป็นผู้ชายวัยทำงาน การเสียชีวิตเกิดขึ้นในขณะนอนหลับ จึงมีการตั้งชื่อโรคในปัจจุบันว่าโรค "ใหลตาย"

 
     การเสียชีวิตฉับพลันของโรค “ใหลตาย”เกิดจากหัวใจห้องล่างเต้นผิดจังหวะ โดยเกิดการเต้นพริ้วทำให้ไม่มีการบีบตัวของหัวใจ ทำให้ร่างกายและสมองขาดเลือดและออกซิเจนกะทันหัน เป็นผลให้แขนขาเกิดอาการเกร็งและหายใจเสียงดังจากการมีเสมหะในหลอดลม บางรายมีอุจจาระปัสสาวะราด จากการสูญเสียการควบคุมของระบบประสาทอัตโนมัติ ผู้ป่วยจะเสียชีวิตในเวลาอันรวดเร็ว ในบางรายที่หัวใจห้องล่างเต้นพริ้วหยุดเอง ผู้ป่วยอาจจะมาพบแพทย์ด้วยอาการหน้ามืดหมดสติแล้วฟื้นตื่นเอง หรือญาติอาจสังเกตว่ามีหายใจเฮือกตอนนอนหลับ อาการหัวใจเต้นผิดจังหวะชนิดหัวใจห้องล่างเต้นพริ้วในผู้ป่วยใหลตายนี้มักเป็นขณะพัก โดยเฉพาะเวลานอนหลับ

 


ปัจจัยเสี่ยง


ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญต่อการเกิดหัวใจห้องล่างเต้นพริ้วหรือโรคใหลตาย คือการมีไข้สูง การสูญเสียเกลือแร่โปรตัสเซียม แมกนีเซียมออกจากร่างกาย เช่น จากการอาเจียน ท้องร่วง กินยาขับปัสสาวะ การดื่มสุราปริมาณมาก การเสพย์กัญชาในทุกรูปแบบ และการรับประทานอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรต(ข้าวเหนียว)ในปริมาณมาก เนื่องจากโรคใหลตายเป็นโรคที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม แพทย์จึงแนะนำให้ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจในญาติพี่น้องของผู้ป่วยโรคใหลตาย เพื่อตรวจคัดกรองโรค
 

วิธีป้องกัน

   
วิธีป้องกันการเสียชีวิตฉับพลันในผู้ป่วยโรคใหลตาย คือ หากมีไข้ควรรับประทานยาลดไข้ เช็ดตัวเพื่อลดอุณหภูมิร่างกาย หลีกเลี่ยงการดื่มสุรา หากท้องเสียหรืออาเจียนปริมาณมาก ควรรีบดื่มเกลือแร่ทดแทนเพื่อหลีกเลี่ยงภาวะโปตัสเซียมต่ำ ไม่ทานข้าวเหนียวปริมาณมากๆโดยเฉพาะมื้อเย็น และกรณีตรวจพบว่าหัวใจห้องล่างเต้นพริ้วหรือเคยรอดชีวิตจากโรคใหลตายมาแล้ว ควรปรึกษาแพทย์เพื่อฝังเครื่องกระตุกไฟฟ้าหัวใจอัตโนมัติ เนื่องจากมีโอกาสเสียชีวิตจากการเกิดหัวใจห้องล่างเต้นพริ้วซ้ำอีกด้วย

ข้อมูลโดย : หน่วยวิชาโรคหัวใจและหลอดเลือด ภาควิชาอายุรศาสตร์
คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ภาพ / ข่าว : กลุ่มงานสื่อสารองค์กร  
งานประชาสัมพันธ์
คณะแพทยศาสตร์
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
27 มีนาคม 65

ข่าว/บทความล่าสุด
เนื้อหาอ่านล่าสุด