การรักษาริ้วรอย
“การรักษาริ้วรอยที่เรารู้จักกันดี คือ LASER เรามาทำความรู้จักกับ Laser กันว่า Laser ช่วยคุณในเรื่องผิวพรรณอย่างไรบ้าง”
LASER (เลเซอร์) ย่อมาจาก Light Amplification by Stimulated Emission of Radiation เป็นแสงที่ถูกทำให้เกิดขึ้นเพื่อให้มีความจำเพราะเจาะจงต่อโครงสร้างของเซลล์ใต้ผิวหนัง มีคุณสมบัติเฉพาะที่แตกต่างจากแสงชนิดอื่นๆ เช่น แสงแดด หรือแสงไฟ ด้วยลักษณะ 3ประการ คือ
- Monochomaticity มีความยาวคลื่นเดียว มีการดูดซับเฉพาะเป้าหมาย (Selectivity)
- Coherence มีความเป็นระเบียบ ควบคุมทิศทางได้ง่าย
- Collimated แสงเลเซอร์จะเดินทางเป็นเส้นตรงโดยมีลำแสงบานออกน้อยมาก มีความขนานกัน ซึ่งต่างจากแสงทั่วไปที่มีการกระจายออกของแสงทุกทิศทาง จึงมีความแม่นยำ สามารถรวมแสงที่เป้าหมายเพื่อให้ได้พลังงานสูงสุด
เลเซอร์กลุ่มที่ใช้รักษาริ้วรอย แบ่งเป็น 3 กลุ่มใหญ่ๆ
- Ablative and Semi ablative Laser Resurfacing
เป็นกลุ่มของเลเซอร์ที่ทำให้เกิดแผลเล็กๆ บนผิวหนัง ตั้งแต่ชั้นหนังกำพร้าลงไปถึงชั้นหนังแท้ เพื่อให้เกิดการซ่อมแซมผิวใหม่ เลเซอร์กลุ่มที่เหมาะกับผู้ที่มีรอยเหี่ยวย่นที่เป็นมาก หลุมสิวและแผลเป็นที่เป็นหลุมต่างๆ ผิวขรุขระไม่เรียบเนียน หรือสีผิวไม่สม่ำเสมอ แต่การดูแลหลังการรักษาด้วยเลเซอร์กลุ่มนี้ค่อนข้างยาก และอาจเกิดผลข้างเคียงได้ เช่น การต้องดูแลแผลหลังเลเซอร์ อาจเกิดรอยคล้ำได้ โดยเฉพาะคนที่ผิวคล้ำ ดังนั้นในปัจจุบันความนิยมจึงน้อยลง เลเซอร์กลุ่มนี้ ได้แก่ CO2(คาร์บอนไดออกไซด์),Er:YAG เลเซอร์เป็นต้น
- Fractional Skin Resurfacing
เป็นเลเซอร์รุ่นใหม่ๆ ใช้หลักการใช้แสงเลเซอร์ผิวใหม่ ผลการรักษาใกล้เคียงกับเลเซอร์กลุ่มที่ทำให้เกิดแผล แต่แผลเล็กกว่า จะเกิดเป็นสะเก็ดเล็กๆ และแผลหายเร็วกว่า ผลข้างเคียงจึ้งน้อยกว่า
เลเซอร์กลุ่มที่เหมาะสมกับผิวที่มีริ้วรอย รูขุมขนกว้าง สีผิวไม่สม่ำเสมอ แผลเป็นชนิดหลุมต่างๆ หลังทำเลเซอร์กลุ่มนี้หน้าจะแดงและมีสะเก็ดเล็กๆ ประมาณ 3-4 วัน ระยะห่าง 4-6 สัปดาห์ ตัวอย่างเลเซอร์กลุ่มนี้ เช่น CO2 laser,Er:YAG,Nd-YAG (1,440nm)
- Non-ablative laser Resurfacing
เลเซอร์กลุ่มนี้จะไม่เกิดแผล เลเซอร์จะปล่อยพลังงานความร้อน ไปยังส่วนประกอบของผิวหนังที่เป็นตัวดูดแรงซับ หรือความร้อน แล้วส่งต่อพลังงานไปยังคอลลาเจนที่อยู่ในชั้นหนังแท้ กระตุ้นให้เกิดการสร้างและจัดเรียงตัวใหม่ ทำให้หนังตึงขึ้น
เลเซอร์กลุ่มนี้ใช้รักษาริ้วรอยตื้นๆ Aging Skin ต่างๆ เช่น จุดดำจากแสงแดด หรือสีผิวไม่สม่ำเสมอ
ข้อดีของเลเซอร์กลุ่มนี้ คือ downtime น้อย หมายถึง ไม่มีแผลอาจมีแค่รอยแดงเล็กน้อย ไม่จำเป็นต้องหยุดงาน แต่ข้อเสีย คือ ต้องทำซ้ำหลายครั้ง เช่น 5-10 ครั้ง แต่ละครั้งห่างกันประมาณ 1เดือน ยิ่งทำหลายครั้งผลการรักษาจะดีกว่า และผลอยู่นานกว่า จึงใช้เวลาในการรักษานาน ผลการรักษาแตกต่างในแต่ละคน ไม่เห็นผลทันตา จะค่อยเป็นค่อยไป ดังนั้นจึงเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวไม่มาก เช่น ริ้วรอยไม่ลึกในเลเซอร์ชนิดนี้ จะไม่สามารถลบริ้วรอยให้หมดไปได้ เป็นเพียงการลดริ้วรอย
เลเซอร์กลุ่มนี้ได้แก่ Nd-YAG เช่น Gentle YAG, IPL/RF เช่น eMAX, Dio de/RF เช่น Matrix IR รวมถึง IPL ด้วย
IPL (Intense Pulsed Light): แสงความเข้มสูง
มีคุณสมบัติคล้ายแสงเลเซอร์ แต่มีการกระจายของแสงมากกว่าจึงมีความจำเพาะเจาะจงน้อยกว่าเลเซอร์ ดังนั้นประสิทธิภาพ และความปลอดภัยของ IPL จึงหลากหลาย เช่น รอยแดงสิว รอยคล้ำ กระฝ้า กำจัดขน และใช้ร่วมกับพลังงานรูปแบบอื่น เช่น คลื่นวิทยุ เป็นต้น