ข่าวสุขภาพ
ข่าวสุขภาพทั่วไป ข่าวธุรกิจสุขภาพไทย ข่าว/กิจกรรม/สาระ รพ.ต่างๆ ข้อมูลบริการ รพ.ต่างๆ สาระความรู้สุขภาพ กิจกรรม ESG CSR Health Economy บริจาครพ.ต่างๆ
น่าสนใจไทยแลนด์
About us เผยแพร่เนื้อหา สถิติเว็บไซต์ สำรวจความเห็นสุขภาพ โฆษณา
healthserv.net@gmail.com

6 อาการอันตรายต่อดวงตา พบจักษุแพทย์ด่วน (รพ.เมตตาฯชวนรู้)

6 อาการอันตรายต่อดวงตา พบจักษุแพทย์ด่วน (รพ.เมตตาฯชวนรู้) Thumb HealthServ.net
6 อาการอันตรายต่อดวงตา พบจักษุแพทย์ด่วน (รพ.เมตตาฯชวนรู้) ThumbMobile HealthServ.net

รพ.เมตตาฯ แนะ! ควรตรวจตาอย่างสม่ำเสมออย่างน้อยปีละครั้ง การตรวจตาอย่างสม่ำเสมออาจพบโรคเรื้อรังทางกายซ่อนอยู่ ระหว่างการตรวจอาจพบโรคร้ายซึ่งอาจมีผลทำให้ตาบอด หรืออันตรายชีวิตได้ เช่น เนื้องอกในดวงตา ต้อหินเฉียบพลัน หากมีอาการทางตา เช่น ปวดตา ปวดศีรษะบ่อยๆ ตามัว ตาแดง เห็นภาพซ้อน น้ำตาไหล ตาแฉะ ควรตรวจตาให้ละเอียดว่าเป็นโรคร้ายแรงอะไรหรือไม่ บ่อยครั้งที่พบว่าผู้ป่วยเป็นต้อหิน ต้อกระจกซ่อนอยู่

 
นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ดวงตาอาจจะไม่ใช่อวัยวะสำคัญที่สุดในการดำเนินชีวิต แต่ดวงตานั้นเป็นอวัยวะสัมผัสที่สำคัญสามารถทำให้ดำเนินชีวิตประจำวันได้อย่างครบถ้วน แต่คนส่วนใหญ่มักไม่ค่อยให้ความสนใจในดวงตา และไม่ได้นึกถึงว่าดวงตาทำงานอย่างไร ดวงตามีความผิดปกติอะไรได้บ้าง และดวงตามีความสำคัญต่อการดำรงชีวิตประจำวันได้อย่างไร หากให้นึกถึงการตรวจสุขภาพร่างกายโดยทั่วไป จะมีน้อยคนที่นึกถึงเรื่องดวงตาก็มีความสำคัญที่จะต้องได้รับการตรวจด้วยเช่นกันจนกว่าจะมีอะไรผิดปกติเกี่ยวกับดวงตาเกิดขึ้นเสียก่อน
 

นายแพทย์อภิชัย  สิรกุลจิรา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์(วัดไร่ขิง) กล่าวเพิ่มว่า คนทั่วไปรู้จักการตรวจสุขภาพกายโดยการตรวจความดันโลหิต ตรวจเลือด เอกซเรย์ปอด และตรวจร่างกายทั่วไป หลายคนคิดว่าตาไม่เป็นไรตราบที่การมองเห็นยังเป็นปกติ คงไม่ต้องตรวจก็ได้ ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิด

เพราะโรคตาบางโรคมาเงียบๆ ช่วงแรกอาจไม่มีอาการเลย โดยเฉพาะโรคต้อหินชนิดเรื้อรัง ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นภัยเงียบที่อาจทำให้ตาบอดได้ ถ้าไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที

แนะนำว่าควรตรวจสุขภาพตา ซึ่งสามารถตรวจได้ทุกช่วงอายุ ไม่จำเป็นต้องตรวจตาตอนอายุมาก 

แพทย์หญิงวธูกานต์  รุ่งภูวภัทร กล่าวเสริมว่า การตรวจสุขภาพโดยจักษุแพทย์มีความจำเป็น เนื่องจากหลายโรคทางตา หลายโรคอาจพบความผิดปกติได้จากการมาตรวจ เช่น
  • ภาวะต้อหินในระยะแรกอาจไม่มีอาการตามัว เนื่องจากเป็นโรคที่มีการสูญเสียลานสายตาโดยรอบก่อนโดยการมองเห็นตรงกลางยังเป็นปกติ เว้นเป็นต้อหินระยะท้ายจึงมีการมองเห็นลดลง หรือลานสายตาแคบลง
  • ผู้ป่วยที่มีพยาธิสภาพที่ตาข้างใดข้างหนึ่ง โดยที่ตาอีกข้างปกติดี และเพราะไม่เคยทดสอบการมองเห็นด้วยตนเองง่ายๆ ด้วยการปิดตาทีละข้าง เพื่อทดสอบการมองเห็น ว่าความผิดปกติหรือไม่ เกิดขึ้นจากตาข้างใด จึงมาพบแพทย์เมื่ออาการเป็นมากแล้ว หรือมีความผิดปกติในตาทั้งสองข้าง 
ซึ่งในการพบจักษุแพทย์ เพื่อตรวจการมองเห็นนั้น จะมีขั้นตอนโดยการทดสอบการมองเห็นทีละข้าง ถ้าผิดปกติต้องหาสาเหตุว่าเกิดจากโรคตาหรือเป็นจากสายตาผิดปกติ



แต่เนื่องจากในสภาวะปัจจุบันที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 อย่างต่อเนื่องจึงทำให้ผู้ป่วยบางส่วนไม่อยากเดินทางมาโรงพยาบาลโดยไม่จำเป็น


อย่างไรก็ตาม ยังมีภาวะทางจักษุบางอย่าง ที่เป็นอันตรายและอาจส่งผลต่อการมองเห็นได้ จึงควรมาพบจักษุแพทย์ เช่น

1. อุบัติเหตุทางตาที่ก่อให้เกิดอาการระคายตา

• เคืองตา ตามัว
• เลือดออก
• สารเคมีหรือสิ่งแปลกปลอมเข้าตา
• กระแทกตา
• อุบัติเหตุที่ใบหน้า เปลือกตาที่อาจส่งผลต่อดวงตา เป็นต้น

2. อาการปวดตามาก

ที่อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น
• การติดเชื้อที่กระจกตา เยื่อบุตา เบ้าตา ถุงน้ำตา
• ม่านตาอักเสบ
• ต้อหินฉับพลัน 


3.เห็นจุดลอยใหม่หรือไฟแฟลชในตา

อาจเป็นจากภาวะน้ำวุ้นลูกตาเสื่อม ซึ่งมีการดึงรั้งจอประสาทตา อาจก่อให้เกิดจอประสาทตาฉีกขาดหลุดลอก หรือเลือดออกในน้ำวุ้นลูกตา


4.อาการตาแดง

ที่เกิดการ 
• ติดเชื้อที่กระจกตา
• เยื่อบุตาอักเสบ
• ม่านตาอักเสบ
• ต้อหินฉับพลัน
• แผลที่กระจกตา เป็นต้น


5.การมองเห็นลดลงฉับพลัน

อาจเกิดจาก
• ต้อหินฉับพลัน
• จอประสาทตาฉีกขาดหลุดลอก
• เลือดออกในน้ำวุ้นลูกตาหรือจุดรับภาพ
• เส้นเลือดที่จอประสาทตาอุดตัน
• เส้นประสาทตาอักเสบ เป็นต้น


6.โรคทางตาที่ห้ามขาดยา

มีความจำเป็นจะต้องใช้อย่างต่อเนื่องและอยู่ในการดูแลของจักษุแพทย์ เช่น
• โรคต้อหินที่ต้องรับยาหยอดตาต่อเนื่อง
• โรคจอประสาทตาที่ต้องฉีดยาเข้าน้ำวุ้นลูกตาต่อเนื่อง 
ก็ควรไปตรวจติดตามการรักษา



อย่างไรก็ดี หากมีตาแดงที่สงสัยว่าเกิดจาก โควิด-19 (เช่น พบอาการตาแดงร่วมกับอาการทางทางเดินหายใจ ไข้ ผื่น) ให้ไปรักษาโควิด-19 ก่อนได้ เนื่องจากอาการทางตา พบได้น้อยกว่าอาการทางระบบทางเดินหายใจ และไม่รุนแรง หายเองได้

และเนื่องจากที่ระบุนั้น เป็นตัวอย่างของอาการทางตาด่วนที่พบได้บ่อย ทั้งนี้ให้ขึ้นกับวิจารณญาณของพยาบาลที่ทำการคัดกรองหรือแพทย์ที่รับปรึกษา ในกรณีที่มีข้อบ่งชี้อื่นร่วมด้วย
 

ข่าว/บทความล่าสุด
เนื้อหาอ่านล่าสุด