VITAMIN C
วิตามินC หรือชื่อเต็มๆว่า กรดแอสคอบิค (Ascobic Acid) เป็นวิตามินที่มนุษย์ไม่สามารถสร้างได้เอง จำเป็นต้องได้รับจากการทานเข้าไป
“วิตามินC ยังช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันของร่างกายซึ่งสามารถป้องกันและรักษาหวัดได้ และยังลดการอักเสบจากการติดเชื้อ”
Antioxidant
มีหน้าที่หลักๆ เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) ซึ่งจะป้องกันร่างกายจากอนุมูลอิสระ ซึ่งเกิดจากขบวนการสับดาบในร่างกาย หรือจากลมพิษ สิ่งแวดล้อมรอบตัวเรา ซึ่งจะทำให้เซลล์ต่างๆ เสื่อม หรืออาจเปลี่ยนแปลงเป็นเซลล์ที่ผิดปกติได้ วิตามินC ยังทำหน้าที่เป็นตัวช่วย(Cofactor) ในขบวนการต่างๆ ของร่างกาย เช่น การสร้างคอลลาเจน ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของเนื้อเยื่อเกี่ยวพันของผิวหนัง และของเส้นเลือดให้แข็งแรงไม่เปราะ ยืดหยุ่นได้ดี และการหายของแผลต่างๆ ให้เป็นปกติ วิตามินC ยังช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันของร่างกาย ซึ่งสามารถป้องกันและรักษาหวัดได้ และยังลดอาการอักเสบจากการติดเชื้อ มีรายงานว่าวิตามินสามารถลดระดับคอเลสเตอรอล และคลายเครียด เนื่องจากสามารถเสริมการทำงานของต่อมหมวกไต ในการสร้างฮอร์โมนต้านความเครียด ความต้องการในแต่ละวัน(Recom-mended Daily Intake) ควรได้รับ 40-90 mg/day โดยคนท้องให้นมลูก สูบบุหรี่ หรือบุคคลที่มีความเครียดทั้งจิตใจและร่างกาย เช่นกำลังป่วยอยู่ ควรได้รับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
VITAMIN C
ปัจจุบันเริ่มมีการใช้ Megadose โดยทานขนาดสูง 2000mg/day ในแง่การรักษามะเร็ง และชะลอวัยแต่เนื่องจาก วิตามินC มีความสามารถละลายน้ำได้ดี เมื่อเราทานเข้าไปจะสลายและถูกดูดซึมง่าย และขับถ่ายออกทางปัสสาวะอย่างรวดเร็ว จึงทำให้ได้ประโยชน์จากการทานขนาดที่สูงไม่มากนักและโอกาสเกิดพิษจากวิตามินC ก็มีน้อยเช่นกัน ผลข้างเคียงของวิตามินC การทานขนาดสูงมากกว่า 1000mg อาจจะทำให้เกิดท้องเสีย และทานตอนท้องว่าง จะเกิดการระคายเคืองทางเดินอาหาร เนื่องจากความเป็นกรด อาจจะเกิดอาการ ท้องอืด เฟ้อ บางครั้งถึงขั้น คลื่นไส้ อาเจียน ปวดหัว และแน่นอนเนื่องจากวิตามินC ขับทางปัสสาวะ จึงทำให้ปัสสาวะมีสภาพเป็นกรด ดังนั้น จึงเพิ่มโอกาสเกิดการตกตะกอนของผลึกต่างๆ กลายเป็นนิ่วในทางเดินปัสสาวะได้ ดังนั้นจึงแนะนำให้ทานวิตามินC พร้อมดื่มน้ำมากๆ
แหล่งของวิตามินC ได้แก่ ผัก ผลไม้ เช่น พลัม อซีโลรา กูสแบรี่ แบลคเคอเรนท์ บลอคเคอรี่ พริกหวาน โขม กะหล่ำดอก ในเนื้อสัตว์ และตับสัตว์ ก็เป็นแหล่งวิตามินC เช่นกัน การปรุงอาหารมีความสำคัญต่อคุณค่าวิตามินC เพราะจะลดปริมาณวิตามินC ได้ถึง 60% ดังนั้น ไม่ควรปรุงอาหารจนสุกเกินไป การลวกผัก วิตามินC จะละลายออกมาอยู่ในน้ำลวกผัก ค่อนข้างสูง เช่นกัน ดีที่สุดคือ ผัก ผลไม้สดที่ไม่สุกเก็บมาใหม่ๆ จะมีปริมาณสูงที่สุด และการเก็บรักษาที่ดีที่สุด คือ แช่เย็น เพราะการอบแห้ง ดอง เชื่อม ทำให้ปริมาณวิตามินลดลงเช่นกัน
การขาดวิตามินC พบในพวกควบคุมอาหารมากๆ มังสวิรัติ สูบบุหรี่ โรคเกี่ยวกับการดูดซึม อาการที่พบคือ อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร ปวดข้อ เลือดออกตามไรฟัน แผลหายช้าและติดเชื้อง่าย
วิตามินC ในรูปแบบอาหารเสริม มีทั้งรูปแบบเม็ดอัด แคปซูล ลูกอม ผสมน้ำหวาน-เครื่องดื่ม หรือผงละลายน้ำและมีนำมาทำให้รูปใช้ภายนอก เช่น ซีรั่ม ครีม โลชั่น เพราะเชื่อว่าผิวจะดูไม่เหนื่อยล้า หมองคล้ำ ขาวใส เปร่งปรั่ง ไม่ร่วงโรยก่อนวัย
ถึงตอนนี้คงทราบข้อมูลของวิตามินC ก็สามารถหาได้จากอาหารทั่วๆไป ซึ่งก็เพียงพอที่ทำให้ไม่เกิดอาการขาดวิตามินแล้ว ส่วนใครจะเสริม ทานเพิ่มเติม หรือทาก็คงต้องพิจารณาเพื่อตัดสินใจ เพราะข้อมูลของบริษัทจะโฆษณาถึงสรรพคุณที่ดีเท่านั้น และจะเป็นความคิดที่ผิดมากถ้าบางคนไม่ยอมทานผัก ผลไม้ แต่ทานอาหารเสริมแทน นอกจากจะไม่ให้ประโยชน์เท่าอาหารจริงๆ แล้วยังเสียเงินโดยใช่เหตุ